แน่นอนว่าในการย้ายของออกจากที่อยู่อาศัยเดิม และเราต้องการย้ายของออกไปด้วยเราจะต้องใช้รถที่ใช้ในการขนของใช่ไหมครับ ? ซึ่งแน่นอนว่ามี 2 ทางเลือกนั้นคือ 1. ถ้าหากเรามีรถส่วนตัวเราก็สามารถใช้รถตัวเองในการขนของได้ แต่ถ้าหากไม่มีเราก็จะต้องเรียกใช้บริการ รถรับจ้างขนของ โดยบริการนี้นั้นเป็นเหมือนสัญญาใจ ไม่มีเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้นดังนั้นหากจะใช้บริการควรระมัดระวังข้อต่อไปนี้
1.โดนเก็บค่าบริการที่สูงเกินจริง
บางทีเราอาจจะไปมีความจำเป็นที่จะต้องไปอยู่พื้นที่นั้น ซึ่งถ้าหากเราไม่รู้และเดินไปถามถึงบริการแบบตรง ๆ เราอาจจะโดนพ่อค้าหัวใสอาจจะคิดค่าบริการเราแบบสูงเกินความจริงก็ได้นะครับ ทางที่ดีลองถามราคาไว้หลาย ๆ เจ้าดีกว่านะครับ
2.โดนมิจฉาชีพปล้น
แน่นอนว่าการย้ายของออกไปของเรานั้นเหมือนกับการย้ายบ้านเลยนะครับ ดังนั้นนี้อาจจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพสวมรอยเป็น รถรับจ้างขนของ เมื่อเหยื่อติดกับนัดเวลาขนของเรียบร้อย ก็ไปรับเหยื่อและอาจจะพาเหยื่อไปที่ลับตาคนเพื่อทำการชิงทรัพย์ก็ได้นะครัย
3.โรคจิต
สำหรับผู้หญิงคนเดียวที่ต้องการย้ายของ อาจจะเจอแจ็คพอตแบบโชคดีเหมือนหนึ่งในล้านที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ก็ได้นะครับ คือเจอโรคจิตที่อาจจะทำไม่ดีไม่ร้ายเราด้วย ดังนั้นพยายามสังเกตุดี ๆ นะครับ
4.สภาพรถใกล้พัง
อีกข้อที่สำคัญเลยคือนั้นคือสภาพรถ ก่อนจะตัดสินใจเลือก รถรับจ้างขนของ นั้นอยากจะให้ตรวจเช็คสภาพรถก่อนนะครับจะได้ไม่ต้องเจอกับรถโบราณรุ่นปู่ ก็ได้ เพราะนอกจากจะขนของให้เราไม่หมดแล้วเราอาจจะไปไม่ถึงที่หมายด้วยก็ได้นะครับ
5.ไม่ใช่คนพื้นที่ ไม่รู้ทาง
อีกข้อที่สำคัญเลยเวลาเราเลือกหารถรับจ้างขนของให้เราลองถามว่าตัวคนขับนั้นใช่คนในพื้นที่หรือเปล่า เพราะบางทีเราก็อาจจะไม่ชินทางก็หวังให้พี่โชเฟอร์คนขับนี้ละจะช่วยนำทางให้เราแต่ถ้าหากเขาไม่ใช่คนในพื้นที่เราก็ยังเลือกที่จะปฏิเสธเขาได้นะครับ ก่อนจะตัดสินใจลองถามก่อนดีกว่านะครับ
ใครที่กำลลังมองหา รถรับจ้างขนของ ก็ให้ระมัดระวังเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยนะครับ ถึงจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่มากมายในบบางเรื่อง แต่บางเรื่องถ้าระวังตัวและรู้จักป้องกันตัวเอาไว้ย่อมดีกว่ารอให้เรื่องมันเกิดแน่นอนครับ เพราะถึงเวลาจริงบางทีอทาจจะไม่มีคนช่วยเราก็ได้นะครับ